เจาะลึกกับขนาดร้านกาแฟ และงบประมาณที่ต้องใช้

บทความ Jan 22, 2021

ในปัจจุบันนี้ เราจะพบเห็นว่ามีร้านกาแฟเต็มไปหมดเกือบทุกพื้น ยิ่งในทำเลดี ๆ ยิ่งมีเยอะ ตั้งแต่ร้านเล็ก ๆ ข้างทาง จนมาถึงร้านตึกแถว รวมไปถึงร้านคาเฟ่ขนาดใหญ่ ที่รองรับลูกค้าได้ในจำนวนเยอะ ๆ และถือเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะคาเฟ่ขนาดใหญ่มักจะตกแต่งร้านสวยงาม ทำให้มีมุมถ่ายรูปให้เช็กอิน ที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ

ขนาดร้านกาแฟอาจมีหลายขนาด ตามความต้องการของผู้ที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจกาแฟ ที่ต้องสอดคล้องกับงบประมาณในการลงทุน ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการกำหนดขนาดของร้านก็เป็นได้ แต่ไม่ควรที่จะเกินกำลังทรัพย์ที่มี เพราะเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

พร้อมแล้วเรามาดูขนาดของร้านกาแฟกันเลย

ร้านกาแฟขนาดเล็ก

เป็นร้านกาแฟที่มีเกือบทุกชุมชนเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมข้างทาง และต้นทุนในการเปิดร้านไม่สูง จึงทำให้พบเห็นเยอะมาก นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดไปสู่ร้านกาแฟขนาดกลาง และขนาดใหญ่ก็ได้

โดยร้านขนาดเล็กบางร้านจะมีพื้นที่ประมาณ 1-2 เมตร คล้ายๆ ลักษณะรถเข็น บางร้านสามารถเคลื่อนย้ายได้ ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเน้นขายกาแฟเป็นหลัก หรือร้านขนาดเล็กบางร้าน จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยที่อยู่ในรูปแบบเคาน์เตอร์ เหมาะสำหรับในชุมชน ที่สามารถสร้างติดไว้กับหน้าบ้าน หรือหน้าร้านขายของชำ ที่เราสามารถออกแบบตามต้องการได้ ยิ่งหากมีวัสดุอุปกรณ์อยู่แล้ว ก็จะช่วยลดต้นทุนได้

ข้อดีของร้านขนาดเล็กนี้คือ ต้นทุนในการเปิดร้านไม่สูง บางร้านอาจไม่เกิน 1 หมื่นก็เปิดได้แล้ว แต่ร้านที่ทำเป็นเคาน์เตอร์อาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่าแต่ก็จะไม่เกิน 3-5 หมื่นบาท โดยรวม ๆ แล้วร้านขนาดเล็กจึงเหมาะกับชุมชน ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนในชุมชน หรือลูกค้าขาจร แต่อาจมีข้อจำกัดเนื่องด้วยเป็นร้านที่มีพื้นที่เล็ก จึงไม่สามารถนั่งที่ร้านได้

ร้านกาแฟขนาดกลาง

ขนาดร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นร้านที่ไม่เล็กมาก และไม่ใหญ่มากจนเกินไป หลาย ๆ คนที่อยากเปิดร้านกาแฟจึงชอบร้านขนาดกลาง เพราะจะสามารถดูแลร้าน และลูกค้าได้อย่างทั่วถึง จะมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 16-20 เมตร เป็นร้านที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และนอกจากขายกาแฟแล้ว จะมีการขายเครื่องดื่มเมนูอื่น ๆ รวมถึงเบเกอรี่ สินค้าอื่น ๆ ร่วมด้วย ทั้งนี้จะมีชุดโต๊ะนั่งทานในร้าน เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อนั่งทานในร้านได้

ร้านขนาดกลาง จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือร้านที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า ปั๊มน้ำมัน หรือตามแหล่งธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะพบเป็นแฟรนไชส์ และอีกแบบคือร้านขนาดกลางที่เจ้าของธุรกิจจัดตั้งขึ้นมาเอง อย่างการเช่าพื้นที่ตามห้องแถว ก่อสร้างร้านเอง

สำหรับเงินลงทุนร้านกาแฟขนาดกลางนี้ อาจมีค่าใช้จ่ายต่างกันไป ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน หากเป็นร้านกาแฟที่ขายในศูนย์การค้า หรือห้องแถว อาจมีค่าเช่าพื้นที่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แค่ไหน ห้องแถวอยู่ในชุมชนที่มีแหล่งผู้คนเยอะ หรือที่เรียกว่าทำเลที่ดีนั่นเอง

ตัวอย่างราคาการเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า จะอยู่ที่ 7,000-10,000 ต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับว่าต้องการพื้นที่ขนาดเท่าไหร่ เช่น แฟรนไชส์ราคา 100,000 บาท และเช่าพื้นที่ใน 16 ตารางเมตร ตารางเมตรละ 7,000 บาท จะเสียเงินค่าเช่าพื้นที่อยู่ 112,000 บาท รวมกับค่าแฟรนไชส์อีก 100,000 บาท จะใช้เงินทั้งหมด 212,000 บาท แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าราคาแฟรนไชส์ ราคาพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า ส่วนการก่อสร้างร้านขึ้นมาเองนั้น ควรกำหนดเงินลงทุนไว้ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้มีค่าใช้จ่ายที่บานปลาย

ร้านกาแฟขนาดใหญ่

ร้านที่สามารถดึงดูดให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี และได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นร้านที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 20 ตารางเมตร ขึ้นไป จุดเด่นของร้านขนาดใหญ่นี้ จะมีความหลากหลายของสินค้าให้เลือก เช่นเครื่องดื่มกาแฟ จะสามารถเลือกดื่มได้ทั้งแบบร้อน แบบเย็น หรือแบบปั่น พร้อมทั้งมีเบเกอรี่ หรือสินค้าอื่น ๆ ให้เลือกได้ช้อปกันมากมาย เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับทางร้าน

สำหรับร้านขนาดใหญ่นี้ เงินลงทุนจะค่อนข้างสูงโดยเริ่มต้นที่หลักแสน ไปจนถึงหลักล้านก็ว่าได้ นอกจากค่าฝีมือก่อสร้างร้านแล้ว ค่าเครื่องชงกาแฟ ค่าตกแต่งร้านก็ค่อนข้างสูงไม่แพ้กัน ต้องดูดีทั้งภายใน ภายนอก

และสิ่งที่ต่างจากร้านกาแฟขนาดเล็ก ขนาดกลางคือ ต้องมีการบริการที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต จำนวนโต๊ะ เก้าอี้ ห้องน้ำ ปลั๊กไฟ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ เพราะร้านกาแฟขนาดใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อเครื่องดื่ม ไม่เพียงแต่มาซื้อแล้วกลับ แต่บางคนคาดหวังที่จะมานั่งทำงาน พักผ่อน การตกแต่งร้าน บรรยากาศในร้านจึงสำคัญมาก

แต่ไม่ได้หมายความว่าเปิดร้านกาแฟขนาดใหญ่จะขาดทุน เพราะส่วนใหญ่ยิ่งร้านกาแฟที่มีความพร้อมในทุกด้าน คนต้องยิ่งสนใจและอยากมาใช้บริการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็ยอมไป และเราจะพบเห็นร้านกาแฟขนาดใหญ่ว่า มักจะตั้งอยู่ตามพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ใกล้บริษัท โรงเรียน มหาวิทยาลัย ที่จะมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการอยู่ตลอด ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการขาดทุน

การอยากเปิดร้านกาแฟ จึงต้องคิดก่อนว่าเรามีเงินลงทุนเหมาะกับร้านกาแฟขนาดใด เพื่อวางแผนในทุก ๆ ด้าน อาจเริ่มต้นจากร้านขนาดเล็ก เพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยเครื่องดื่มสูตรเฉพาะของทางร้าน จนมีลูกประจำ มีรายได้เพิ่มขึ้น แล้วค่อยขยับขยายไปเป็นร้านกาแฟขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ซึ่งยังคงทำให้มีฐานลูกค้าเดิมอยู่

นอกจากร้านกาแฟที่ดูดี ตรงใจเจ้าของธุรกิจ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าแล้ว การเลือกเมล็ดกาแฟ เลือกใบชา เพื่อเสริมให้เครื่องดื่มในร้านมีรสชาติที่ดีก็สำคัญ หากอยากให้ร้านของคุณมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ก็ต้องเลือกวัตถุดิบคุณภาพดี ของทาง bluemochatea นอกจากนี้เรายังรับผลิตชา OEM มียอดการผลิตไม่สูง แถมยังบริการให้คำปรึกษาฟรี

Tags