9 วิธีการชงกาแฟแบบมืออาชีพ ที่ร้านกาแฟต้องห้ามพลาด
ชงกาแฟ แบบไหนให้ถูกใจลูกค้าของร้านเราดี เพราะกาแฟ ถือเป็นเครื่องดื่มที่บางคนดื่มมากถึง 3 แก้วต่อวัน หรืออาจมากกว่านี้ก็เป็นไปได้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หลาย ๆ คน ต้องดื่มกาแฟทุกวัน หากวันไหนที่ไม่ได้ดื่ม จะรู้สึกว่าร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง รู้สึกไม่สดชื่น
นอกจากนี้ กาแฟ ยังอาจเป็นเครื่องดื่มประจำตัวของหลายคนไปแล้ว ที่ทุกเช้าต้องดื่ม ก่อนไปทำงานต้องแวะซื้อ จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ยอดนิยม และส่งผลทำให้เกิดร้านกาแฟเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับการชงกาแฟนั้น เจ้าของร้านกาแฟบางคนอาจยังไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วการชงกาแฟมีหลายวิธี ไม่ใช่เพียงแค่การนำเข้าเครื่องชงกาแฟ โดยแต่ละวิธีจะให้รสชาติความอร่อยของกาแฟ ที่ต่างกันออกไป
9 วิธีการชงกาแฟ ที่เจ้าของร้านควรรู้จัก
เอสเพรสโซ (Espresso)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/----------Espresso-Machine--1.jpeg)
วิธีการชงกาแฟที่เกิดจากสิ่งประดิษฐ์ของ อันเจโล โมริออนโด เมื่อปี 1884 จากเครื่องชงกาแฟด้วยไอน้ำ หรือ Espresso Machine หลังจากนั้น ลุยจีเบซเซรา นักประดิษฐ์ชาวอิตาเลียนอีกคน ได้มาสานต่อ และพัฒนาจนกลายเป็นที่นิยมในเวลาต่อมา
ถือเป็นการชงกาแฟที่เราสามารถพบเห็นได้ทุกวัน ตามร้านกาแฟต่าง ๆ สำหรับการชงประเภทนี้ เป็นการใช้เครื่องชง Espresso Machine ในการใช้แรงอัดไอน้ำ หรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด คือการใช้น้ำน้อยที่สุด จึงทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมกาแฟแบบชัดเจน จึงถือว่าเป็นการชงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
กาแฟแอโรเพรส (Aeropress)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/Aeropress-Coffee-.jpeg)
กาชงแบบแอโรเพรสนี้ เริ่มขึ้นเมื่อปี 2005 โดยนักฟิสิกส์ อลัน แอดเลอร์ ผู้ที่คิดค้นเครื่องแอโรเพรส ที่มีลักษณะเป็นท่อ 2 ชิ้น ประกอบเข้าด้วยกันเหมือนไซริงก์ จะได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นใกล้เคียงกับการชงแบบเอสเพรสโซ
เป็นการชงกาแฟด้วยวิธีที่ง่ายมาก เพียงเติมน้ำร้อนที่ได้อุณหภูมิตามที่ต้องการให้เหมาะสม กับกาแฟแต่ละชนิด โดยการทำกาแฟแบบ Aeropress นี้ จะเป็นการใช้แรงดันอากาศ ดันน้ำร้อนให้ผ่านผงกาแฟ และกรองด้วย Filter ที่มีรูพรุนขนาดเล็กมาก
กาแฟเฟรนช์เพรส (French Press)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/-----------French-Press-.jpeg)
เป็นการชงที่ไม่ได้ต่างจากแอโรเพรส ในแง่ของการพึ่งแรงดันอากาศ โดยเครื่องเฟรนช์เพรส จะมีลักษณะเป็นกาสูงให้ใส่เมล็ดกาแฟบด และน้ำร้อนลงไป จากนั้นจึงใส่ตัวกดตะแกรงลงไปค่อย ๆ กดลงจนสุดกา
เป็นการชงกาแฟแบบกด ที่ใช้แค่น้ำกับกาแฟบดโดยตรง เพื่อจะทำให้ได้กาแฟสดที่แท้จริง ได้กลิ่นกาแฟสดชื่น ในวิธีการชงแบบนี้จะต้องใช้เมล็ดกาแฟแบบหยาบ เพื่อไม่ให้เมล็ดกาแฟหลุดผ่านตัวกรองลงมา
กาแฟดริป (Drip)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/Drip-coffee.jpeg)
การชงกาแฟประเภทนี้ ถือเป็นการชงในดวงใจของสายสโลว์ไลฟ์เลยก็ว่าได้ นอกจากกาแฟดริปที่เรารู้จักแล้ว ยังเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Brewed coffee และ Pour-over coffee เริ่มต้นเมื่อประมาณ ปี 1908 โดย เอมิลี ออกกุสต์ เมลิตทา เบนซ์ ชาวเยอรมันผู้คิดค้นกระดาษกรองกาแฟ (Coffee Filter) ขึ้นมา เพราะในช่วงนั้นการชงแบบเอสเพรสโซ ยังแยกกากได้ดีเท่าที่ควร จนทำให้การชงแบบดริปแพร่หลายไปทั่วโลก
ในปัจจุบันนี้ คอกาแฟทั้งหลายก็เริ่มหันมาดื่มกาแฟแบบดริปมากขึ้น เพราะใช้เวลาไม่นาน ใช้งานง่าย และราคาเข้าถึงได้ เป็นการชงกาแฟผ่านกระดาษกรอง ที่ใช้น้ำร้อนประมาณ 80 องศาเซลเซียส ส่วนการเทน้ำร้อนนั้นอาจขึ้นอยู่กับความเร็ว และเทคนิคของแต่ละคน โดยค่อย ๆ เทน้ำร้อนวนเป็นวงกลมก้นหอย บนกาแฟให้ไหลผ่านกระดาษกรอง และรอให้น้ำกาแฟหยดลงมาบนภาชนะที่รองรับ ซึ่งจะได้รสชาติกาแฟกลาง ๆ ไม่เข้มมาก
กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/Coffee-Cold-Brew-.jpeg)
มีจุดเริ่มต้นเมื่อประมาณปี 1600 ซึ่งเป็นยุคที่กาแฟดัตซ์นิยมกันทั่วโลก โดยที่เหล่าพ่อค้าจึงค้นหาวิธีนำกาแฟแบบพร้อมดื่มขึ้นไปบนเรือโดยที่ไม่เสียของ ทางด้านเอเชีย กาแฟสกัดเย็นได้เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นประเทศแรก รู้จักกันในชื่อว่า Kyoto Coffee
การชงกาแฟสกัดเย็นนี้เป็นการชงที่ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ต้องใช่เวลานานกว่าจะได้ลิ้มรสกาแฟ ซึ่งชงหรือสกัดด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ เพียงแค่นำเมล็ดกาแฟบดลงไปในโหล แล้วรินน้ำเย็นตาม จากนั้นก็ปิดฝาโหลทิ้งไว้ข้ามคืน อาจจะนำไปแช่ตู้เย็นก็ได้เช่นกัน ในวันรุ่งขึ้นต้องนำน้ำกาแฟที่ได้ มากรองผ่านกระดาษกรองเพื่อแยกกากกาแฟออก โดยในปัจจุบันนี้สามารถหาดื่มได้ เนื่องจากมีการบรรจุขวดขายตามร้านกาแฟ
เคล็ดลับ กาแฟสกัดเย็นนี้ เหมาะกับเมล็ดคั่วอ่อน และบดหยาบ เพื่อให้ได้รสชาติที่ไม่ขมเข้มจนเกินไป
กาแฟไนโตร (Nitro Cold Brew)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/Nitro-Cold-Brew-Coffee--.jpeg)
การชงจะเหมือนกับกาแฟสกัดเย็น แต่จะทำในปริมาณที่มากกว่าหลายเท่า จากนั้นจึงอัดไนโตรเจนเข้าไปคล้ายระบบเบียร์ ทำให้ได้ฟองนุ่มเหมือนฟองเบียร์ กาแฟไนโตรจะดึงรสชาติ และกลิ่นหอมของกาแฟปนมากับฟองนุ่ม ๆ
กาแฟไซฟอน (Siphon)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/siphon-coffee-.jpeg)
การชงกาแฟแบบสูญญากาศ หรือรู้จักกันในอีกชื่อว่า Vacuum Coffee ถูกคิดค้นขึ้นมาในช่วง ปี 1840 โดย อะกิระ โคโนะ ชาวญี่ปุ่น ที่ได้ดัดแปลงกรรมวิธีการชงแบบเดิม ให้ได้รสชาติกาแฟสดที่กลมกล่อม และเป็นการชงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การชงประเภทอื่น ๆ
สำหรับวิธีการชงนี้ จะใช้หลักสูญญากาศ ที่จะต้องใส่กาแฟไว้ในหม้อด้านบน โดยต้องมีตัวกรองอยู่ด้วยเพื่อไม่ให้ผงกาแฟหล่นลงด้านล่าง จากนั้นเติมน้ำใส่ลงไปในหม้อด้านล่าง แล้วปิดฝาด้านบน ทำการจุดไฟด้วยตะเกียงแอลกอฮอล์เพื่อต้มน้ำให้เดือด จากนั้นน้ำจะถูกดันขึ้นไปยังหม้อด้านบน และให้ทำการดับไฟ แล้วรอให้น้ำร้อนไหลผ่านกาแฟ ลงมายังหม้อด้านล่าง เพียงเท่านี้ก็จะได้กาแฟให้ได้ดื่มแล้ว วิธีนี้จะมีความน่าสนใจ คล้าย ๆ กับการได้ทดลองวิทยาศาสตร์
กาแฟโมกาพ็อต (Moka Pot)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/Moka-Pot-Coffee-.jpeg)
Moka pot คือเครื่องชงกาแฟที่คิดค้นขึ้นโดย ลุยจี เดอ ปอนติ ชาวอิตาเลียน การชงประเภทนี้จะได้รับความนิยมอย่างมาก ในหมู่คอกาแฟที่ชอบกาแฟเข้ม ๆ โดยเครื่องโมกาพ็อตนี้เป็นกาทรงสูงทำจากสแตนเลส เป็นที่นิยมในแถบยุโรป และลาตินอเมริกา ทั้งนี้ยังถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์การออกแบบหลายแห่ง ด้วยความที่มีรูปทรงที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์
โดยวิธีการชง ก็ทำได้โดยการใส่น้ำลงไปในหม้อ ให้ถึงขีดที่แนะนำเอาไว้ ใส่กรวยกาแฟลงไปตามด้วยกาแฟ จากนั้นให้ปิดฝา แล้วนำไปต้มจดได้น้ำที่ร้อน และมีไอน้ำดันให้น้ำพุ่งขึ้นผ่านกาแฟ แล้วทำการปิดไฟ น้ำกาแฟที่เหลือก็จะดันตัวขึ้นมาอยู่ในกาด้านบน ก็จะได้น้ำกาแฟพร้อมดื่มแล้ว
**ควรบดกาแฟให้หยาบกลาง ๆ ระหว่างการชงแบบเอสเพรสโซ และดริป เพราะอาจทำให้ได้กาแฟที่มีความขมมากไป
กาแฟเคมแม็กซ์ (Chemex)
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2021/01/Chemex.jpeg)
Chemex คือ กรวยชงกาแฟชนิดหนึ่ง เป็นการชงที่คล้ายกับการชงแบบดริป ที่ใช้น้ำร้อนเทใส่ผงกาแฟ และผ่านกระดาษกรองลงไป เพียงแตกต่างกันที่ในวิธีการชงแบบนี้ จะต้องทำด้วยมือทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การบดกาแฟ ไปจนถึงการเทน้ำร้อนใส่ลงบนผงกาแฟ
รู้ถึงวิธีการชงกาแฟในแต่ละวิธีแล้ว ก็สามารถนำไปปรับใช้กับร้านกาแฟของคุณได้เลย นอกจากนี้กาแฟของร้านคุณจะอร่อยเพิ่มขึ้น หากใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพ หรืออยากเพิ่มยอดขายให้กับร้านได้ง่าย ๆ เพียงแค่เพิ่มเครื่องดื่มเมนูชา เพื่อเอาใจคนที่ไม่ดื่มกาแฟให้เข้าร้านมากขึ้น ซึ่งทาง bluemochatea เรามีทั้งเมล็ดกาแฟคุณภาพดี ชาหลากหลายประเภท ให้คุณนำมาเพิ่มเสน่ห์ให้เครื่องดื่มในร้านคุณเป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของลูกค้าหลาย ๆ คน
![](https://bluemochathailand.com/content/images/2024/02/contact-us-bluemocha-2-1.png)