เลือกเก็บรักษาใบชาแห้งในภาชนะที่เหมาะสม ช่วยยืดอายุชาได้นานถึง 1-2 ปี
กล่องเก็บใบชา กระป๋องเหล็ก โหลแก้ว ถุงพลาสติก ปกติร้านของคุณเก็บรักษาใบชาแห้งไว้ในภาชนะไหน รู้หรือไม่ ? หากอยากให้ใบชาแห้งที่คุณมีอยู่ยังคงมีคุณภาพของกลิ่น รสชาติที่ดี การรู้จักวิธีการเก็บใบชาที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะลูกค้าที่ดื่มชาทุกแก้ว ควรได้ดื่มด่ำชาที่มีคุณภาพ ดื่มแล้วมีกลิ่นหอม ไม่เสียรสชาติของชาแท้ ๆ
เคยสังเกตไหมว่าทำไมใบชาที่ซื้อมาถึงมีกลิ่นหอมที่ลดลง รวมถึงมีสีที่เปลี่ยนไป เพราะจริง ๆ แล้วสาเหตุที่ทำให้ใบชาเสื่อมสภาพลงนั้นมีปัจจัยหลายด้านมาก ทั้งแสงแดด ความชื้น อุณหภูมิ ภาชนะที่เก็บใบชา กลิ่น หรือแม้แต่ปัจจัยอื่น ๆ รอบด้านที่อาจส่งผลให้ใบชาเสียคุณภาพได้
ใบชาจะมีคุณภาพดี ต้องขึ้นอยู่กับการเก็บชารักษาเป็นอย่างดีด้วย ที่ทำให้สามารถเก็บได้นานถึง 1-2 ปี เพราะฉะนั้นร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุก ที่ต้องมีการใช้ใบชาในการชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าเป็นประจำ ควรที่จะต้องรู้และใส่ใจในกระบวนการที่สำคัญนี้อย่างมาก เพื่อชูรสชาติเครื่องดื่มทุกแก้วของลูกค้า แถมยังเป็นการเพิ่มความประทับใจ ไม่ทำให้ร้านของคุณเสียคะแนน
ใบชา กับเอกลักษณ์ที่ดูดซับกลิ่นต่าง ๆ รอบด้าน หากเก็บในภาชนะที่มีกลิ่น หรือท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีกลิ่น จะทำให้ใบชามีกลิ่นที่เปลี่ยนไป ชงแล้วเสียรสชาติ เสียกลิ่นหอมของชาแท้ ๆ
เลือกเก็บรักษาใบชาในภาชนะที่ใช่
- กล่องเก็บใบชา
ภาชนะที่นิยมนำมาใช้เก็บชา ปิดมิดชิด และสามารถเก็บกลิ่นของใบชาได้เป็นอย่างดี ป้องกันความชื้น แสงแดดได้ ช่วยยืดอายุชาได้นานยิ่งขึ้น รวมทั้งยังคงกลิ่น และรสชาติของชาไว้ได้ดีแถมยังมีรูปแบบ และขนาดที่สวยงาม ดูมีความคลาสสิก และนำมาประดับตกแต่งร้านได้
- กระป๋องเก็บใบชา
ภาชนะที่มีฝาปิดแน่น เพื่อป้องกันรักษาใบชา เพราะกระป๋องมีความหนา ทึบ และแข็งแรงทนทานไม่บุบง่าย และช่วยยืดอายุชาทั้ง สี กลิ่น และรสชาติของชาได้ดี แถมยังมีสี ลวดลาย ที่สวยงาม สามารถเลือกได้ตามใจชอบ จะนำมาตกแต่งร้านก็ได้เช่นกัน
- กล่องพลาสติกใส
อีกหนึ่งภาชนะที่นิยมนำมาเก็บใบชาตามร้านค้าทั่วไป ซึ่งอาจจะสามารถป้องกันรักษาได้ แต่อาจน้อยกว่าก่อง และกระป๋อง เพราะแสงแดดจะสัมผัสใบชาได้ง่ายกว่า หากร้านไหนเก็บใบชาในกล่องพลาสติกใส อย่าลืมวางให้พ้นแสงแดดด้วยนะ
- โหลแก้ว
ภาชนะที่หลาย ๆ คนนำมาเก็บรักษาใบชา ซึ่งก็เก็บรักษาได้พอสมควร หากใครที่นำใบชามาเก็บในโหลแก้ว ต้องเลือกใช้ที่มีฝาปิดแน่นสนิท และควรนำไปเก็บให้พ้นแสงแดด เพราะโหลแก้วใสจะทำให้แดดผ่านโดนใบชาได้โดยตรง
- ถุงซิปล็อค
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงใช้ถุงซิปล็อคในการเก็บชาอย่างแน่นอน เพราะง่ายต่อการใช้งาน แต่มีข้อเสียมากว่าการเก็บชาในภาชนะอื่น ๆ ที่การรักษาใบชาจะรักษาได้น้อยกว่า และทำให้ใบชาสัมผัสกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อใบชาทำให้เสียคุณค่าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
** ข้อแนะนำสำหรับการเก็บใบชาในภาชนะต่าง ๆ เพื่อเป็นการรักษาใบชาให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ก่อนนำใบชามาใส่ ต้องตรวจสอบกลิ่นของภาชนะ และมั่นใจว่าแห้งสนิท มีฝาปิดแน่น ลมไม่สามารถเข้าออกได้ และแนะนำให้นำไปใส่ในตู้เก็บชา หรือลิ้นชักอีกชั้น เพื่อป้องกันการกระทบจากปัจจัยอื่น ๆ ลดความเสี่ยงได้มากขึ้น
เรื่องที่เข้าใจผิดมาตลอดกับการเก็บชา
- นำใบชาใส่ตู้เย็น
- รัดถุงด้วยหนังยางเฉย ๆ แบบนี้กลิ่นชาออก ลมเข้าได้ง่าย
- ใส่ซองกันชื้นโดนใบชาโดยตรง
- วางกล่องเก็บชาโดนแดด ชาเสียคุณภาพแน่นอน
- วางกล่องเก็บชาในที่มีกลิ่นรอบข้าง บอกเลยว่าอย่าเด็ดขาด เพราะชาจะดูดซับกลิ่นต่าง ๆ นั่นเอง
- เก็บชาต่างชนิดในภาชนะเดียวกัน ข้อนี้อย่าหาทำเด็ดขาด
- ใช้มือหยิบจับชาทุกครั้งก่อนนำมาชง แบบนี้ต้องเปลี่ยน แนะนำให้มีช้อนสำหรับตักชาแต่ละชนิดดีกว่า
แล้วร้านของคุณล่ะ เก็บใบชาไว้ในภาชนะแบบไหน หากใครที่นำหนังยางมารัดปากถุงไว้เฉย ๆ ควรรีบเปลี่ยนวิธีเก็บชาใหม่ทันที เพราะจะทำให้ใบชาของร้านคุณเสียคุณภาพได้ง่าย ทั้งรสชาติ กลิ่น เมื่อนำมาชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าจะได้รสชาติที่ผิดเพี้ยนแน่นอน และเป็นการสร้างความไม่ประทับใจให้กับลูกค้าได้
หากอยากให้ใบชามีความสดใหม่ กลิ่นเหมือนพึ่งเด็ดจากต้น ก็ต้องอย่าลืมหาภาชนะเก็บชาที่ดีด้วย เพราะภาชนะเก็บชาถือเป็นหัวใจสำคัญเลยก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอย่าลืมยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่ส่งผลกระทบต่อใบชาได้โดยตรงที่ทำให้ใบชาเสียคุณค่าได้เร็วยิ่งขึ้น ทั้งแสงแดด ความชื้น อุณหภูมิ กลิ่น ดังนั้นต้องอย่ามองข้ามเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้เด็ดขาด
แต่ แต่ แต่ แม้ว่าจะเก็บใบชาดีแค่ไหน หากชงเครื่องดื่มไม่อร่อย คะแนนร้านคุณก็ลดลงได้นะ เพราะฉะนั้นหากร้านไหนที่อยากได้สูตรงชงเพิ่มเติม เอาใจลูกค้ากันซะหน่อย บอกเลยว่า bluemocha เรามีมาฝาก กับสูตรชงเพิ่มยอดขาย รวมทั้งสาระความรู้ที่นำไปปรับใช้ได้ทั้งร้าน รับรองว่าร้านของคุณจะว้าวขึ้นมาอย่างแน่นอน
