อัปเดตเทรนด์! ชาเกาหลี ญี่ปุ่น สุดฮิต พร้อมสูตร(ไม่)ลับ ฉบับทำตามง่าย!
สวัสดีค่ะทุกคน! ใครเป็นคอชาตัวยงยกมือขึ้นหน่อยเร็ว! นาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ากระแสคาเฟ่สไตล์เกาหลี ญี่ปุ่น กำลังมาแรงแซงโค้งจริงๆ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่ร้านชาสวยๆ ชิคๆ ที่ตกแต่งร้านได้น่ารักน่านั่ง แถมยังมีเมนูชาสุดครีเอทีฟให้เลือกละลานตาไปหมด ทั้งชาผลไม้สีสวย ชาดอกไม้หอมๆ หรือชาเขียวมัทฉะเข้มข้นที่แค่เห็นรูปก็ทำเอาน้ำลายสอ!
แต่เดี๋ยวก่อน! รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วชาเก๋ ๆ เหล่านั้น ไม่ได้มีแค่ในคาเฟ่ราคาแพง ๆ เท่านั้นนะ เราเองก็สามารถเนรมิตชาเกาหลี ญี่ปุ่น สุดฮิต ดื่มเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน แถมรสชาติยังอร่อยฟินไม่แพ้ไปซื้อที่ร้านเลยล่ะ!
วันนี้เราเลยขออาสาพาเพื่อนๆ ทุกคนไป อัปเดตเทรนด์ชาเกาหลี ญี่ปุ่น สุดฮิตประจำปี 2025 พร้อมเปิดวาร์ป สูตร(ไม่)ลับ ฉบับทำตามง่าย ที่ใครๆ ก็สามารถเป็นบาริสต้ามือโปรได้ในพริบตา! ไม่ว่าจะเป็นสายเฮลตี้ที่ชอบชาผลไม้สดชื่น สายหวานที่เลิฟชาผสมนม หรือสายเข้มที่หลงใหลในชาเขียวมัทฉะ บอกเลยว่าห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาด! เตรียมตัวจดสูตรกันให้พร้อม แล้วมาสนุกกับการทำชาไปพร้อม ๆ กันเลย!
ปี 2025 นี้ เทรนด์เครื่องดื่มชาในเกาหลีและญี่ปุ่นยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยผสมผสานความดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดเป็นเครื่องดื่มชาที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นสายเฮลตี้ที่มองหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือสายคาเฟ่ฮอปเปอร์ที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ชาเกาหลี 2025 และ ชาญี่ปุ่น 2025 ยังคงเน้นความสำคัญกับวัตถุดิบจากธรรมชาติ เน้นรสชาติที่สดชื่นและดีต่อสุขภาพ รวมถึงการนำเสนอที่สวยงามน่าถ่ายรูป ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมคาเฟ่ในสองประเทศนี้
มาดูกันว่าเทรนด์ชาที่น่าจับตามองในปี 2025 มีอะไรบ้าง :
ชาผลไม้สไตล์เกาหลี : สดชื่น ดับกระหาย
ชาผลไม้สไตล์เกาหลีไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มดับกระหายคลายร้อนเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องดื่มที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการบริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพและความงามของชาวเกาหลีอีกด้วย ในปี 2025 นี้ เทรนด์ชาผลไม้เกาหลียังคงมาแรง แต่มีการพัฒนาและต่อยอดไปในหลายๆ ด้าน เพื่อมอบประสบการณ์ความสดชื่นที่ "มากกว่าเดิม" ให้กับผู้บริโภค
ความสดชื่นที่ "มากกว่าเดิม" มาจากไหน?
การใช้วัตถุดิบที่หลากหลายและแปลกใหม่มากขึ้น
- ผลไม้ท้องถิ่นเกาหลี: นอกจากส้มยูสุ (Yuzu) ที่เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว ยังมีการนำผลไม้ท้องถิ่นอื่นๆ มาใช้มากขึ้น เช่น
- ส้มฮัลลาบง (Hallabong): ส้มสายพันธุ์พิเศษจากเกาะเชจู มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เป็นเอกลักษณ์ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
- ลูกพลับเกาหลี (Korean Persimmon): ให้รสชาติหวานละมุน และมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม สามารถนำมาทำเป็นชาได้ทั้งแบบสดและแบบอบแห้ง
- โอมีจา (Omija): ผลเบอร์รีสีแดงสด มี 5 รสชาติในผลเดียว (เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม และเผ็ด) นิยมนำมาทำเป็นชาหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
- บกบุญจา (Bokbunja): ผลไม้ตระกูลราสเบอร์รีสีดำ มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และมีสรรพคุณทางยา
- การผสมผสานผลไม้กับสมุนไพรเกาหลี: เพื่อเพิ่มรสชาติที่ซับซ้อนและสรรพคุณทางยา เช่น
- ชาโสมผสมส้มยูสุ: ช่วยบำรุงกำลังและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ชาขิงผสมเลมอน: ช่วยบรรเทาอาการหวัด และช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
- ชาอบเชยผสมแอปเปิล: ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้ผ่อนคลาย
เทคนิคการชงชาที่พิถีพิถันมากขึ้น
- Cold Brew: การสกัดชาด้วยน้ำเย็นเป็นเวลานาน จะช่วยให้ชาผลไม้มีรสชาติที่นุ่มนวล ไม่ขม และยังคงรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้มากกว่าการชงด้วยน้ำร้อน
- Sparkling Tea: การนำชาผลไม้มาผสมกับโซดา จะช่วยเพิ่มความสดชื่นและซาบซ่า
- Infused Tea: การนำผลไม้สดหรือผลไม้อบแห้งมาแช่ในน้ำชา จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติให้กับชา
5 สูตรชาผลไม้สไตล์เกาหลีที่น่าสนใจในปี 2025
1. สูตรชาส้มฮัลลาบง
วัตถุดิบ:
- ส้มฮัลลาบง 1-2 ผล (หรือส้มชนิดอื่นที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน)
- น้ำเย็น 1 ลิตร
- ใบชาดำ หรือชาเขียว 1-2 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
- น้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ตามชอบ)
- ใบมินต์ (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ:
- ล้างส้มฮัลลาบงให้สะอาด ฝานเป็นแว่นบางๆ
- ใส่ใบชาลงในกาน้ำเย็น (หรือขวดโหล)
- เติมน้ำเย็นลงไป
- ใส่ส้มฮัลลาบงฝานลงไป
- ปิดฝาให้สนิท นำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง (หรือข้ามคืน)
- เมื่อครบเวลา กรองเอาใบชาและส้มออก
- เติมน้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ถ้าต้องการ)
- เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง ตกแต่งด้วยส้มฮัลลาบงฝานและใบมินต์
2. สูตรชาโอมีจา
วัตถุดิบ:
- ผลโอมีจาแห้ง 1/2 ถ้วย
- น้ำร้อน 1 ลิตร
- น้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ตามชอบ)
- โซดาแช่เย็น
- น้ำแข็ง
วิธีทำ:
- ล้างผลโอมีจาแห้งให้สะอาด
- ใส่ผลโอมีจาลงในกาน้ำ
- เติมน้ำร้อนลงไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที (หรือจนกว่าชาจะมีสีแดงเข้ม)
- กรองเอาผลโอมีจาออก
- เติมน้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ถ้าต้องการ) คนให้เข้ากัน
- พักชาให้เย็นสนิท
- เมื่อจะเสิร์ฟ ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว
- เทชาโอมีจาลงไปประมาณครึ่งแก้ว
- เติมโซดาแช่เย็นลงไปจนเต็มแก้ว
- คนเบา ๆ ให้เข้ากัน
3. สูตรชาลูกพลับอบแห้ง Infused
วัตถุดิบ:
- ลูกพลับอบแห้ง 3-4 ชิ้น
- น้ำร้อน 1 ลิตร
- อบเชยแท่ง 1-2 แท่ง (ถ้าชอบ)
- น้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ตามชอบ)
วิธีทำ:
- ใส่ลูกพลับอบแห้งลงในกาน้ำ
- เติมน้ำร้อนลงไป
- ใส่อบเชยแท่งลงไป (ถ้าชอบ)
- แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที
- เติมน้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ถ้าต้องการ)
- เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง หรือจะดื่มแบบร้อนก็ได้
4. สูตรชาบกบุญจาผสมโซดา
วัตถุดิบ:
- ผลบกบุญจาสด หรือแช่แข็ง 1/2 ถ้วย (หรือน้ำบกบุญจาเข้มข้น)
- น้ำเชื่อม (หรือน้ำผึ้ง) 1-2 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
- โซดาแช่เย็น
- น้ำแข็ง
- ใบมินต์ (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ:
- ถ้าใช้ผลบกบุญจาสด ให้นำไปปั่นกับน้ำเล็กน้อย แล้วกรองเอาแต่น้ำ
- ผสมน้ำบกบุญจากับน้ำเชื่อม (หรือน้ำผึ้ง) คนให้เข้ากัน
- ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว
- เทส่วนผสมน้ำบกบุญจาลงไปประมาณครึ่งแก้ว
- เติมโซดาแช่เย็นลงไปจนเต็มแก้ว
- คนเบาๆ ให้เข้ากัน ตกแต่งด้วยใบมินต์
5. สูตรชาขิงผสมเลมอนและน้ำผึ้ง
วัตถุดิบ:
- ขิงสดฝานบางๆ 5-6 แว่น
- น้ำร้อน 1 ถ้วย
- น้ำเลมอน 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
- เลมอนฝาน (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ:
- ใส่ขิงฝานลงในแก้ว
- เติมน้ำร้อนลงไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที
- เติมน้ำเลมอนและน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน
- เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง หรือจะดื่มแบบร้อนก็ได้ ตกแต่งด้วยเลมอนฝาน
ชาผลไม้สไตล์เกาหลีในปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มดับกระหาย แต่ยังเป็นเครื่องดื่มที่สะท้อนถึงความใส่ใจในสุขภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบและการชงชา ทำให้ชาผลไม้เกาหลียังคงเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
ชาเขียวมัทฉะญี่ปุ่น : ความเข้มข้นที่หลากหลาย
ชาเขียวมัทฉะ (Matcha) ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ กลิ่นหอมเฉพาะตัว และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ในปี 2025 นี้ เทรนด์มัทฉะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การชงแบบดั้งเดิม หรือมัทฉะลาเต้เท่านั้น แต่ยังมีการต่อยอดและพัฒนาไปสู่เมนูที่หลากหลายและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ความเข้มข้นที่หลากหลาย
คำว่า "ความเข้มข้น" ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่รสชาติของมัทฉะเท่านั้น แต่ยังรวมถึง :
ความเข้มข้นของรสชาติ
- มัทฉะเกรดพรีเมียม: มีรสชาติที่เข้มข้น อูมามิ (Umami) สูง และมีรสขมน้อยกว่ามัทฉะเกรดทั่วไป เหมาะสำหรับการชงแบบ Usucha (ชาใส) หรือ Koicha (ชาข้น)
- มัทฉะเกรดพิธีชงชา (Ceremonial Grade): มักจะมีรสชาติที่นุ่มนวล กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมสดชื่น
- มัทฉะเกรดทำอาหาร (Culinary Grade): มีรสชาติที่เข้มข้นและขมกว่า เหมาะสำหรับนำไปทำขนมหรือเครื่องดื่มผสมอื่นๆ
ความเข้มข้นของสี:
- มัทฉะที่มีคุณภาพดีจะมีสีเขียวสดใส ซึ่งบ่งบอกถึงปริมาณคลอโรฟิลล์ที่สูง
- มัทฉะบางชนิดอาจมีสีเขียวอมเหลือง หรือเขียวอมน้ำตาล ซึ่งอาจเกิดจากกรรมวิธีการผลิตหรือสายพันธุ์ของชา
ความเข้มข้นของเนื้อสัมผัส:
- มัทฉะที่บดละเอียดจะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ไม่สากลิ้น
- การชงมัทฉะแบบ Koicha จะได้ชาที่มีเนื้อสัมผัสเข้มข้นคล้ายครีม
5 เมนูมัทฉะญี่ปุ่นที่หลากหลายในปี 2025
1. สูตรมัทฉะลาเต้ (Matcha Latte) - หลากหลายสไตล์
วัตถุดิบ:
- ผงมัทฉะ 1-2 ช้อนชา (ปรับได้ตามชอบ)
- น้ำร้อน (80°C) 60 มล.
- นม (ตามชอบ) 180-240 มล.
- นมวัว: ให้รสชาติคลาสสิก
- นมโอ๊ต: ให้รสชาติหวานเล็กน้อย และเนื้อสัมผัสครีมมี่
- นมอัลมอนด์: ให้รสชาติหอมมัน และมีกลิ่นอัลมอนด์
- นมถั่วเหลือง: ให้รสชาติถั่วเหลืองอ่อนๆ
- นมมะพร้าว: ให้รสชาติหวานหอม และมีกลิ่นมะพร้าว
- น้ำเชื่อม หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ตามชอบ)
วิธีทำ:
- ร่อนผงมัทฉะลงในถ้วย
- เติมน้ำร้อนลงไป ใช้แปรงชงชา (Chasen) ตีให้เข้ากันจนเป็นฟองละเอียด (หรือใช้เครื่องตีฟองนม)
- เติมนมที่อุ่นร้อนลงไป (ถ้าต้องการลาเต้เย็น ให้เติมนมเย็นและน้ำแข็ง)
- เติมน้ำเชื่อม หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ถ้าต้องการ) คนให้เข้ากัน
- (Optional) ตกแต่งด้วยผงมัทฉะ หรือวาดลวดลายบนฟองนม (Latte Art)
2. สูตรมัทฉะผสมผลไม้ (Matcha Fruit Blends) - มัทฉะผสมส้มยูสุ
วัตถุดิบ:
- ผงมัทฉะ 1 ช้อนชา
- น้ำร้อน (80°C) 60 มล.
- น้ำส้มยูสุ 60 มล. (หรือน้ำส้มยูสุเข้มข้นผสมน้ำ)
- น้ำเชื่อม หรือน้ำผึ้ง (ตามชอบ)
- น้ำแข็ง
วิธีทำ:
- ร่อนผงมัทฉะลงในแก้ว
- เติมน้ำร้อนลงไป ตีให้เข้ากันจนเป็นฟอง
- เติมน้ำส้มยูสุ และน้ำเชื่อม (หรือน้ำผึ้ง) คนให้เข้ากัน
- เติมน้ำแข็ง เสิร์ฟ
3. สูตรมัทฉะผสมถั่ว (Matcha Nut Blends) - มัทฉะผสมอัลมอนด์
วัตถุดิบ:
- ผงมัทฉะ 1-2 ช้อนชา
- นมอัลมอนด์ 240 มล.
- อัลมอนด์อบ (ไม่ใส่เกลือ) 1/4 ถ้วย
- น้ำเชื่อม หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ตามชอบ)
- น้ำแข็ง
วิธีทำ:
- นำอัลมอนด์ไปปั่นกับนมอัลมอนด์เล็กน้อย จนได้เนื้อเนียนละเอียด
- เติมผงมัทฉะ นมอัลมอนด์ที่เหลือ น้ำเชื่อม (หรือสารให้ความหวานอื่นๆ) และน้ำแข็ง ลงในเครื่องปั่น
- ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
- เทใส่แก้ว เสิร์ฟ
4. สูตรมัทฉะแบบใส (Clear Matcha)
- ผงมัชฉะคุณภาพสูง
- น้ำเย็น
วิธีทำ: สูตรนี้ยังเป็นเทรนด์ใหม่ อาจจะต้องรอข้อมูลและวิธีการทำที่ละเอียดกว่านี้ครับ แต่หลักๆ คือการสกัดเย็นโดยใช้อุปกรณ์พิเศษ
5. สูตรมัทฉะผสมกาแฟ (Matcha Coffee)
วัตถุดิบ:
- ผงมัทฉะ 1 ช้อนชา
- น้ำร้อน (80°C) 30 มล.
- กาแฟ (Espresso หรือกาแฟดำเข้มข้น) 60 มล.
- นม (ตามชอบ) 120 มล.
- น้ำเชื่อม หรือสารให้ความหวานอื่นๆ (ตามชอบ)
- น้ำแข็ง
วิธีทำ:
- ร่อนผงมัทฉะลงในแก้ว
- เติมน้ำร้อนลงไป ตีให้เข้ากันจนเป็นฟอง
- เติมนม (อุ่นร้อน หรือเย็นก็ได้) ลงในแก้วอีกใบ
- เติมน้ำเชื่อม (หรือสารให้ความหวานอื่นๆ) ลงในนม คนให้เข้ากัน
- ค่อยๆ เทกาแฟลงบนนม
- เติมน้ำแข็ง
- ค่อยๆ เทมัทฉะที่ตีไว้ลงบนชั้นกาแฟ
เทรนด์มัทฉะในปี 2025 เน้นความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัตถุดิบที่หลากหลาย การผสมผสานรสชาติใหม่ๆ หรือการพัฒนาเมนูที่แปลกใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มมัทฉะที่น่าตื่นเต้นและไม่จำเจ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการเดินทางสำรวจโลกของ ชาเกาหลี ญี่ปุ่น สุดฮิตในปี 2025 ที่เราได้นำเสนอไป หวังว่าทุกคนคงได้เห็นแล้วว่าเทรนด์ชาในปีนี้ไม่ได้มีแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความใส่ใจในสุขภาพ และความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบและการชงชาอีกด้วย
จากชาผลไม้เกาหลีที่เน้นความสดชื่นจากธรรมชาติ ด้วยผลไม้ท้องถิ่นและสมุนไพรหลากหลายชนิด สู่ชาดอกไม้เกาหลีที่มอบความหอมละมุนและผ่อนคลาย รวมถึงชาผสมนม/ชีสที่ยังคงครองใจสายหวานอย่างต่อเนื่อง และสำหรับชาญี่ปุ่น ชาเขียวมัทฉะก็ยังคงเป็นดาวเด่น แต่มาพร้อมกับเมนูที่หลากหลายและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้น ทั้งมัทฉะลาเต้หลากสไตล์ มัทฉะผสมผลไม้ มัทฉะผสมถั่ว หรือแม้แต่มัทฉะแบบใส! นอกจากนี้ ชาโฮจิฉะก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชอบชาเขียวคั่วที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
เราได้รวบรวม สูตร(ไม่)ลับ ชาเกาหลี ญี่ปุ่น ยอดนิยมหลากหลายเมนู มาให้ทุกคนได้ลองทำตามกันง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นชาส้มยูสุ ชาโอมีจา ชาลูกพลับ ชาบกบุญจา ชาขิงผสมเลมอน มัทฉะลาเต้ มัทฉะผสมส้มยูสุ มัทฉะผสมอัลมอนด์ หรือมัทฉะผสมกาแฟ รับรองว่าอร่อยฟินเหมือนไปดื่มที่คาเฟ่ดังๆ แน่นอน!
นอกจากความอร่อยแล้ว ชาเหล่านี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยบำรุงร่างกายและจิตใจ
สุดท้ายนี้ อย่าลืมนำสูตรชาที่เรานำเสนอไปลองทำกันดูนะคะ แล้วมาแชร์ประสบการณ์หรือสูตรชาเด็ดๆ ของคุณให้เพื่อนๆ ได้ลองทำตามกันบ้าง แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ!
"โรงงานผลิตชา" กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของร้านกาแฟ
ในโลกของร้านกาแฟที่การแข่งขันสูง การมีเมนูชาที่เป็นเอกลักษณ์และมีคุณภาพ คือกุญแจสำคัญที่จะดึงดูดลูกค้าและสร้างความแตกต่าง แต่การจะทำเช่นนั้นได้ การมี "โรงงานผลิตชา" ที่ดี มีคุณภาพ และตอบโจทย์ ถือเป็นหัวใจสำคัญ
วันนี้ เราขอแนะนำ "Bluemocha" โรงงานผลิตชาครบวงจร ที่พร้อมเนรมิตแบรนด์ชาในฝันของคุณให้เป็นจริง! Bluemocha คือโรงงานผลิตชาระดับมาตรฐาน ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้บริการ OEM และ ODM แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การนำเข้าและส่งออกใบชา การพัฒนาสูตร การผลิต การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการขึ้นทะเบียน อย. Bluemocha พร้อมเป็น "One-Stop Service" สำหรับธุรกิจชาของคุณ
ทำไมต้องเลือก Bluemocha?
- วัตถุดิบคุณภาพ: คัดสรรใบชาคุณภาพดี กว่า 40 ชนิด จากแหล่งปลูกชั้นนำ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- สูตรชาหลากหลาย: มีสูตรชาให้เลือกมากมาย ทั้งชาไทย ชาเขียว ชาไต้หวัน ชาสมุนไพร และชาผลไม้ พร้อมพัฒนาสูตรใหม่ๆ ตามความต้องการ
- บริการครบวงจร: บริการครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่ พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ขึ้นทะเบียน อย. ให้คำปรึกษา และดูแลหลังการขาย
- มาตรฐานการผลิต: โรงงานได้มาตรฐาน GMP และ HACCP มั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย และคุณภาพ
- ทีมงานมืออาชีพ: ทีมงาน Bluemocha มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ พร้อมให้คำแนะนำ และดูแลธุรกิจชาของคุณอย่างใกล้ชิด
Bluemocha เหมาะกับใคร?
- ผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์ชา แต่ไม่มีโรงงาน หรือความรู้
- ร้านกาแฟ ร้านอาหาร โรงแรม ที่ต้องการเพิ่มเมนูชา หรือสร้างแบรนด์ชาของตัวเอง
- แฟรนไชส์ ที่ต้องการวัตถุดิบ และสูตรชา สำหรับธุรกิจ
Bluemocha พร้อมให้บริการ และเป็น "เพื่อนคู่คิด" สำหรับธุรกิจชาของคุณ ด้วยบริการที่ครบครัน คุณภาพมาตรฐาน และความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน
สนใจใช้บริการ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ Bluemocha ได้ที่ @bluemochacoffee
